หลวงปู่ขันธ์ สิริวัณโณ
0.00 บาท
ติดต่อสอบถาม

     พระครูโสภิตมงคลการ” หรือ “หลวงปู่ขันธ์ สิริวัณโณ” พระเถระเมืองแปดริ้ว ได้รับการยกย่องว่าเคร่งครัดระเบียบวินัย ใส่ใจกัมมัฏฐาน มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือปัจจุบัน สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมงคลโสภิต อ.บ้าน โพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา และที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเทพราชอัตโนประวัติเกิดในสกุล คงสาคร เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.ค.2466 ที่บ้านหมู่ที่ 1 ต.คลองประเวศ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนาหลังจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 6 จากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ออกมาช่วยงานครอบครัวอายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 เม.ย.2486 ที่วัดโพธาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีพระครูวิจารณ์ธรรมานุวัตร วัดโพธาราม อ.เมืองฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูบู่ วัดประเวศวัฒนาราม อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์แม้น วัดโพธาราม ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เป็นพระอนุสาวนาจารย์อยู่จำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรมรับใช้อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ พร้อมทั้งศึกษาวิทยาคมสำเร็จนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก สำนักเรียนวัดมงคลโสภิต อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทราต่อมา กราบพระอุปัชฌาย์ ออกท่องธุดงค์แสวงวิเวกประพฤติธรรมไปในที่ต่างๆ ตัดสินใจออกสะพายย่ามแบกกลดเดินทางออกจากวัด ตามแบบพระธรรมยุต มุ่งศึกษาแนวทางปฏิบัติตามแบบอย่างบูรพาจารย์สายพระป่าพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตฝากตัวเรียนด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานกับศิษย์สายพระอาจารย์มั่นรูปสำคัญหลายรูป เช่น หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล, หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง, หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพารามนอกจากนี้ ยังธุดงค์ไปศึกษาวิปัสสนากับท่านพุทธทาส ณ สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฏร์ธานี อีกด้วยในช่วงถือธุดงควัตรนั้น หลวงปู่ขันธ์ เล่าย้อนอดีตให้ฟัง ว่า ถือธุดงค์วัตรนั้นเป็นไปอย่างอุกฤษฏ์ ได้บุกป่าฝ่าดงไปมาเกือบทั่วประเทศ มีครั้งหนึ่ง เข้าไปเจริญภาวนาในถ้ำ พอออกจากถ้ำจะไปบิณฑบาต พบเสือแม่ลูกอ่อนที่ปากถ้ำ ต่างจ้องตากันอยู่ จิตตอนนั้นไม่คิดกลัว มีแต่การกำหนดรู้เท่านั้น ไม่นานเสือแม่ลูกอ่อน ก็กระโดดหายไปในป่าลึก”นอกจากนี้ มีสติปัญญาดีเลิศ มีความจำได้แม่นยำมาก สามารถท่องสวดปาติโมกข์ โดยลำพังรูปเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ครั้งหนึ่งอยู่อบรมพระกัมมัฏฐานกับศิษย์สายหลวงปู่มั่นครั้นพอถึงวาระสวดปาติโมกข์ ปรากฏว่า พระภิกษุในอุโบสถนั้น ไม่มีรูปใดสวดได้ ท่านต้องขึ้นสวดปาติโมกข์ ในท่ามกลางพระสงฆ์ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น โดยมีหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ จ.นครพนม เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ฝ่ายธรรมยุต ซึ่งเป็นศิษย์อาวุโสของหลวงปู่มั่น เป็นประธานสงฆ์ต่อมา เดินทางกลับวัด คอยช่วยเหลืองานศาสนกิจภายในวัด พ.ศ.2488 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมวัดมงคลโสภิตด้วยความเป็นพระปฏิบัติดี เคร่งครัดพระธรรมวินัย ท่านได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมงคลโสภิต ในปี พ.ศ.2511

    ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2535 เป็นเจ้าคณะตำบลเทพราช พ.ศ.2536 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2546 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเทพราชลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2520 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ในราชทินนามที่พระครูโสภิตมงคลการ พ.ศ.2528 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนามเดิมพ.ศ.2544 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิมพ.ศ.2552 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในราชทินนามเดิมแม้จะเป็นพระสงฆ์ในฝ่ายมหานิกาย แต่หลวงปู่ขันธ์ มีเชี่ยวชาญวิปัสสนาธุระเป็นยิ่งนัก ดังปรากฏว่า ได้รับพระราชทานพัดยศขาว และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในฝ่ายวิปัสสนาธุระเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวแปดริ้วโดยแท้