สิงห์ปราบป่า พญาปราบเมือง รุ่น 2 (รูปปลุกเสก)
พระโชว์
ติดต่อสอบถาม

 

 ครูบาออ ปัณฑิโต

สำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

ครูบา ผู้เฒ่าขมังเวทย์ เจ้าอาคมชาวไทยใหญ่ อายุ 92 ปี  ปลีกตัว เร้นกาย อยู่บนดอยสูงเพียงรูปเดียว

 

เจ้าตำหรับ  “สิงห์ปราบป่า พญาปราบเมือง”  รับราชาการดี รุ่งเรือง เฟื่องฟู  อยู่เหนือคน

“ลูกอม ช้างประสมโขลง หงส์ประสมกา พญาเทครัว” สุดยอดมหาเสน่ห์ มหานิยมแห่งไทยใหญ่

“พญายูงคำ นำโชค”   ร่ำรวยเงินทอง ข้าวของบริวาร สมบัติพัสถาน สมบูรณ์พูนผล

“ตะกรุดหมองมุงเมือง”  พลิกดวง กลับชะตา สมปรารถนา ในบัดดล

 

-                     ครูบาออ รูปนี้ แม้วัยชรา ก็มีวิชาดี มีบารมีมาก ท่านแบกกลด ธุดงค์จากฝั่งไทยใหญ่ พม่า มาดอยจอมแวะ เพียงรูปเดียว ค่ำไหนนอนนั่น ถ้ำลึกลับ ป่าช้ารก เป็นที่อาศัย  ผจญภูตผีปีศาจ  เจ้าป่าเจ้าเขา ผ่านมาได้หมด

-                     เจ้าฟ้าแสงเชียง เจ้าแผ่นดินรัฐฉาน ไทยใหญ่ เป็นผู้สักสังวาลเพชร บนศีรษะท่านเมื่ออายุ 20 ปี เพราะโปรดที่ครูบาออ ตอนนั้นเป็นทหารกล้า นำพากองทัพไทยใหญ่รบชนะข้าศึกโดยไม่เสียกำลังพลแม้แต่คนเดียว

-                     ตอนบวช เจ้าปิ่นยา สังฆราชไทยใหญ่ บวชให้ เมื่อบวชแล้วท่านศึกษาอักขระ ตำราเลขยันต์ฉบับหอคำหลวง เจนจบพุทธาคม จนได้รับการวางตัว เป็นพระมหาเถระองค์ต่อไป

-                     ท่านขมังเวทย์ เรืองวิชาตั้งแต่เป็นเณร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านถูกเกณฑ์เป็นทหารไทยใหญ่ รบกับพม่า กองร้อยของท่านทั้งกองร้อย รบไม่เคยแพ้ ไม่ตาย ไม่เจ็บ เพราะก่อนรบ ท่านทำน้ำมนต์ทั้ง สักกระหม่อมให้เพื่อนทหารสู้กับศัตรู  ปรากฏว่า ปืนทหารพม่ายิงมาไม่ออกบ้าง ออกแต่ไม่ถูกบ้าง  ลูกระเบิดตกใกล้ ๆ ไม่ระเบิดบ้าง แม้ตอนนี้ เจ้ายอดศึก ผู้นำไทยใหญ่ ก็เคารพนับถือท่านอย่างที่สุด

-                     เรื่องเล่าจากศิษย์กรุงเทพ ฯ ขึ้นดอยไปกราบท่าน ขณะคุยอยู่เห็นเมฆฝนตั้งเค้าดำทมืน ก็จะรีบลาท่านกลับ เพราะขืนช้า ฝนตกหนัก ดินลื่น น้ำหลาก จะลงดอยไม่ได้  ท่านห้ามไม่ให้กลับ แล้วก็คว้าผ้าเช็ดปากเดินไปที่ลานดิน ท่านเอาผ้าเช็ดปาก โบกอากาศไปมาอยู่ 3-4 ครั้ง ปากก็ว่าคาถาขมุบขมิบ แล้วก็เดินกลับ !! อัศจรรย์!!  เมฆฝนดำทมืน ค่อย ๆ จางหายไป กลับมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านเมฆมาแทน ปรากฏว่า ดอยจอมแวะ ทั้งดอยฝนไม่ตก แต่ตกรอบอำเภอเชียงดาวแทน แบบไม่ลืมหูลืมตา

-                     เรื่องเล่าจากศิษย์เชียงใหม่ นักธุรกิจน้ำดื่ม ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนเลย ตอนกลางคืนหลับฝันว่าได้ขึ้นไปกราบพระชรา บนดอยสูง พระรูปนี้ ในฝันจำได้แม่น เพราะท่านสักยันต์รูปสี่เหลี่ยมสีทองไว้รอบศรีษะ  ตื่นขึ้นมาก็เล่าความฝันให้ลูกน้องฟัง บังเอิญลูกน้องเป็นคนเชียงดาว ก็นึกถึงครูบาออ ว่าลักษณะตรงกับในฝัน เลยพากันขึ้นดอย ไปกราบท่าน เมื่อพบหน้าก็ต้องตะลึง ขนลุกทั้งตัว เพราะครูบาออ คือพระชราที่ตนฝันถึง เพราะจำใบหน้าเหี่ยวย่นได้ ที่สำคัญจำรอยสักยันต์สี่เหลี่ยมรอบศรีษะท่านได้แม่นยำ

-                     เรื่องเล่าจากหลานท่านเอง หลานท่านปลูกบ้านอยู่เชิงดอย สองวันบ้าง สามวันบ้าง จะขึ้นไปกราบท่านนำน้ำบ้าง อาหารแห้งบ้าง ไปถวาย มีช่วงหนึ่ง งานมาก เลยไม่ได้ขึ้นไปหาท่าน ตอนเช้าจะออกไปรับจ้าง พอเปิดประตูบ้าน ก็เห็นครูบาออ ในมือถือกาน้ำ ออกเดินนำหน้าอยู่ ก็นึกแปลกใจว่า ท่านลงจากดอยมาได้ยังไงกัน ทางก็ไกล ทั้งลาดชัน ขึ้นลงลำบาก สักครู่ ร่างท่านก็หายไป ก็เลยตัดสินใจไม่ไปรับจ้าง แต่นำน้ำดื่มขึ้นไปหาท่านแทน พอเจอหน้ากัน ท่านก็ทักเป็นภาษาไทยใหญ่ว่า “หายไปนาน น้ำดื่มหมดแล้ว กลัวว่าเดี๋ยวจะออกจากบ้านไปก่อน ก็เลยรีบมาเตือนให้นำน้ำดื่มขึ้นมาให้ด้วย” !?!  

-                     เรื่องเล่าจากหลวงพี่นิ่ม พระสงฆ์รูปหนึ่ง ชอบฝากตนเป็นศิษย์หลวงปู่ หลวงพ่อต่าง ๆ  และศึกษาทางจิตศาสตร์ สักยันต์ลงของได้  มีวิชาอาคมพอสมควร ได้ขึ้นไปกราบครูบาออ ขอเรียนวิชาด้วย ความที่อยู่บนดอยสูงภาคเหนือจึงฉันภัตตาหารแบบตามมีตามเกิด คือข้าวนึ่ง น้ำพริก ผักจิ้ม ยืนพื้น ครั้นอยู่นานเป็นสัปดาห์ก็เบื่ออาหารฉันได้น้อยลง ครูบาออ ท่านคงรู้อาการ เย็นวันหนึ่ง เห็นท่านเอากระป๋องพลาสติกเปล่า ๆ ไปแขวนไว้บนต้นไม้ พอตอนเช้ามาท่านบอกให้ไปดูที่กระป๋อง ก็เจอคราบน้ำ และพบปลาช่อนตัวเขื่องอยู่ในนั้น 1ตัว มีน้ำพอท่วมหลังปลา พอดีกับศิษย์ท่านขึ้นมากราบท่าน จึงนำปลาช่อนทำอาหารถวายพระพระนิ่มเล่าว่า วันนั้นฉันอาหารได้มากเป็นพิเศษ  ที่อร่อยคือ เนื้อปลาช่อนที่ครูบาออ ดักด้วยกระป๋องเปล่าบนต้นไม้กลางดอยสูง น่าแปลก ปลาช่อนนา ขึ้นไปอยู่ในกระป๋องที่แขวนไว้บนต้นไม้ กลางดอยสูงได้อย่างไร   

-                     เรื่องเล่าจากผู้เขียนเอง ตัวผู้เขียน จะบุกป่าขึ้นดอยไปกราบท่านครั้งแรก เพราะได้ยินเพื่อนบอกเล่าถึงความเก่งกล้าของท่านมานานแล้ว คืนก่อนวันขึ้นดอยได้อธิฐานกับท่านว่า หากท่านมีญาณวิถีรู้วาระจิตคน และจะได้มากราบเป็นศิษย์ท่านแล้ว ขอให้เอ่ยปากขอเกศาจากท่าน แล้วท่านมอบให้โดยดี  เรื่องนี้ผู้เขียนอธิฐานในใจคนเดียว รู้เพียงคนเดียว พอวันรุ่งขึ้นนั่งรถขึ้นดอยจอมแวะกับเพื่อน ๆก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เราไปถึงดอยประมาณเกือบบ่ายโมง  พอผู้เขียนกราบท่าน ท่านจ้องหน้าผู้เขียนอยู่นาน แล้วท่านเดินหายเข้าไปห้องข้างใน กลับมาพร้อมกับถุงพลาสติก แล้วท่านก็ยื่นถุงนั้นให้ผู้เขียน พูดเป็นภาษาไทยใหญ่   แปลได้ว่า           “ เตรียมไว้ให้แล้ว ” พอผู้เขียนเปิดถุงดู กลายเป็นเส้นเกศาของท่านเต็มไปหมด ผู้เขียนถึงกับขนลุกซู่ !!นี่ท่านล่วงรู้ใจของผู้เขียนได้อย่างไร ?? หรือท่านจะทรงอภิญญาญาณจริงดั่งคำเขาเล่าลือกัน สอบถามหลานท่านได้ความว่า ตอนเช้ามืด ท่านเรียกหาให้หลานท่านโกนผมให้หน่อย บอกเพียงว่า “มีคนจะขอ ต้องเตรียมไว้ให้เขา เขาจะมาช่วยสร้างถนนขึ้นพระธาตุ”

-                      หมายเหตุ ครูบาออ ท่านเป็นชาวไทยใหญ่ พูดภาษาไทย หรือภาษาล้านนาไม่ได้ ต้องคุยภาษาไทยใหญ่ ผ่านล่ามกับท่าน

 

เนื่องจากสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะที่ครูบาออ อยู่จำพรรษานั้น เป็นดอยสูง ไม่มีถนน ทั้งทางขึ้นดอยก็ลาดชัน รถยนต์ ไม่สามารถขึ้นไปได้ สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งไฟฟ้า และน้ำประปาก็ไม่มี อาศัยเพียงน้ำฝน และแผงเซลล์รับแสงอาทิตย์  ศิษย์จะขึ้นไปกราบท่านต้องนำน้ำดื่มไปถวายเป็นขวดๆ ทั้งสำนักสงฆ์ก็ยังขาดเสนาสนะอีกมาก จึงกราบเรียนเชิญนักนิยมพระเครื่องดี เกจิดัง วัตถุมงคลขลัง ร่วมทำบุญสร้างทางขึ้นดอย กับหลวงปู่ครูบาออ ปณฑิโต วัดพระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

 

อานิสงค์ สร้างทางขึ้นดอยสู่องค์พระธาตุ เหมือนสร้างทางขึ้นสวรรค์ สร้างวิมาน สร้างบารมีใหญ่   เดินทางปลอดภัย ขึ้นเหนือได้โชค  ลงใต้ได้ลาภ เป็นมหาเศรษฐีในเร็ววัน เป็นใหญ่เหนือคน ไม่จน ไม่เจ็บ   ตายไปเกิดบนสวรรค์ชั้นฟ้า ลงมาเป็นมนุษย์ จะถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ มหาศาล มีอานิสงค์เหลือคณานัป ท่านร่วมบุญสร้างทาง ครูบาออ มีวัตถุมงคลมอบให้เป็นที่ระลึก ซื้อไม่ขาย ขอให้ทำบุญรับดังนี้

 

1.                   สิงห์ปราบป่า พญาปราบเมือง        สีหราชตำราไทยใหญ่ เชื่อว่าเป็นราชาแห่งสัตว์ และมนุษย์ เป็นใหญ่ในโลก เพราะเหยียบโลกไว้ใต้อุ้งเท้า เหยียบทวีปไว้ทั้ง 4 ทวีป วัดทางภาคเหนือ จึงนิยมสร้างสิงห์คู่ยืนเฝ้าประตูวัด คอยพิทักษ์วัด จับวิญญาณชั่วร้ายกิน ปราบปรามสิ่งไม่ดีทั้งหลาย  สมัยครูบาออเป็นนักรบไทยใหญ่ช่วงสงครามโลกครั้ง 2 ท่านลงยันต์กลางหลังเพื่อนทหารด้วยยันต์สิงห์ปราบป่า พญาปราบเมือง ปรากฏว่าเพื่อนท่านทั้งกองร้อย รบเก่ง ศัตรูกลัว รบที่ไหนชนะที่นั่น สร้างความคร้ามเกรงในอำนาจตบะเดชะไปทั่ว เพื่อนท่านเดี๋ยวนี้ แม้แก่ชรา ก็ยังมีอำนาจ ตบะเดชะอันเกิดจากยันต์สิงห์ปราบป่าของครูบาออ ได้เป็นนายพล นายทหารใหญ่ ประจำรัฐไทยใหญ่กันทุกคน

ครูบาออให้สร้างสิงห์ปราบป่า พญาปราบเมือง  รุ่นแรก หมดไปแล้ว และกลายเป็นของหายาก มีอาถรรพ์แรง  ราคาเช่าหา หลักพัน ก็ไม่มีใครอยากปล่อย เพราะ ดี !!  เกินกำลัง   ขลัง !! เกินราคา

ครูบาออ  เมตตา สั่งให้ทำสิงห์ปราบป่า พญาปราบเมือง รุ่น  2   เสกให้นานกว่า เคล็ดวิชามหาปราบแห่งหอคำหลวง  ด้วยเหล็กอาถรรพ์ ผูกคอด้วยด้ายเสก สีแดง แรงฤทธิ์ ที่เสกมา 5 ปี  เป็นรุ่นแรก เพื่อมอบตอบแทนผู้ร่วมสร้างทางขึ้นดอย สร้างถนนไหว้พระธาตุ มีพุทธคุณ หนุน ส่งในเรื่องมหาปราบ มหาอำนาจ มหาราชศักดิ์ ตบะ เดชะ อยู่ยง คงกระพัน เหมาะกับข้าราชการ นักปกครองนายทหาร นายตำรวจ ทำงานปราบปราม เสี่ยงอันตราย เจ้านายที่ลูกน้องเกเร  คุมคน คุมทัพ ปราบปรามศัตรู คนชั่ว คนพาลรังแก ปราบปราบสิ่งเลวร้ายที่มองไม่เห็น ที่ไหนทางสามแพร่ง ที่ไหน ทำมาหากินไม่ขึ้น ร้านเรือน ร้านค้า มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ ถูกคุณคน คุณไสยกระทำ ไปหาหมอกี่หมอไม่หาย หน้าหมองคล้ำทำกินไม่ขึ้น เอาสิงห์ไปปราบป่า เอาพญาไปปราบเมือง เรื่องร้ายจะกลายเป็นดี ศัตรูหมู่ปัจจามิตรที่คิดร้ายทำอันตรายเราไม่ได้ แต่จะกลับพ่ายแพ้ภัยตัวเอง มีอำนาจ ตบะ เดชะ เจ้านายโปรดปราน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วยอำนาจแห่งสิงห์ที่เป็นใหญ่ เหนือป่า ด้วยอำนาจแห่งพญา ที่เป็นใหญ่เหนือเมือง